ชาวบ้านห้วยสามพาดหวั่นคนตกงาน หวังพึ่งเหมืองโปแตซ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่บ้านห้วยสามพาด ตำบลห้วยสามพาด อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี เพื่อพบปะพูดคุย ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและแจ้งความคืบหน้าการดำเนินโครงการฯ พร้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เพื่อประยุกต์ใช้ในการดำเนินโครงการฯ ในอนาคต

นายจรูญ อ่อนนอ เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์โครงการฯ ได้กล่าวกับชาวบ้านห้วยสามพาดที่เข้าร่วมพูดคุยในครั้งนี้ว่า โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานีนับเป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะส่งผลต่อความเจริญต่างๆ ในชุมชน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อโครงการเกิดขึ้น ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะมีโอกาสในการเข้าทำงาน ทำให้มีรายได้มั่นคง รวมทั้งเศรษฐกิจชุมชนก็จะดีขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทางโครงการก็ยังคงรอการอนุญาตประทานบัตรจากกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจากเหตุผลในด้านความคุ้มค่าและความจำเป็นต่อประเทศไทยเรา รวมทั้งผลประโยชน์ตอบแทนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศ ก็คาดว่าโครงการของเราจะผ่านการพิจารณาในเร็ววันนี้

นายสุนทร ทอนเสาร์ ชาวบ้านห้วยสามพาด กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ตนมีความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของโครงการ และอยากให้บ้านเมืองเจริญขึ้น เพราะตอนนี้ความเจริญกระจุกตัวอยู่แค่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ไม่กี่จังหวัด ขณะที่อุตสาหกรรมใหญ่ๆ ที่ช่วยสร้างงานสร้างเงินก็ไม่ค่อยมีในภาคอีสานเรา ซึ่งตนเองก็อยากให้มีการขยายความเจริญสู่ภูมิภาค เพื่อชาวบ้านจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

ด้านนายสมชาย เรืองอุไร ประธานสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธกส. อุดรธานี จำกัด ซึ่งได้เข้าร่วมพูดคุยในครั้งนี้ ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นความล่าช้าในการพิจารณาโครงการฯ ว่า ตนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแทนคนอีสาน โดยเฉพาะคนอุดรเรา ที่แม้ว่าเราจะมีทรัพยากรอย่างแร่โปแตซอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ได้รับการผลักดันอย่างจริงจัง ซึ่งถ้าเรามีเหมืองแร่โปแตซ ก็จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้คนอุดรมีงานทำ มีรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรซึ่งวันนี้ยังแบกรับภาระหนี้สินอยู่ ก็จะสามารถลืมตาอ้าปากได้ เพราะแร่โปแตซสำคัญกับเกษตรกรมาก ถ้าเราทำให้ปุ๋ยราคาลดลงได้ ก็จะส่งผลโดยตรงกับภาคการเกษตร

ในการพูดคุยครั้งนี้ ชาวบ้านยังได้บอกเล่าถึงความเดือดร้อนจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยนางยุวธิดา เทียนไธสงค์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนไม่ได้ทำงานประจำ และตนก็เคยคิดอยากจะทำงานค้าขาย แต่เมื่อทุนมีไม่มาก ตนก็ไม่กล้าเสี่ยงลงทุน เพราะกลัวจะขาดทุนและจะมีหนี้สินมากกว่าเดิม แต่ถ้าเหมืองโปแตซเกิดขึ้น ตนก็อยากจะไปค้าขายในเหมือง เพราะในเหมืองคงจะมีพนักงานมากมายและมีกำลังซื้อมากกว่า ด้านนางคำดี แสนเสนา กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ตนเองก็อายุมากแล้ว จึงไม่ได้ห่วงอนาคตตัวเองเท่ากับอนาคตลูกหลาน ซึ่งตนเองก็อยากจะให้เหมืองเกิดขึ้นเพื่อให้ลูกหลานได้มีงานทำ มีรายได้ สามารถหาเลี้ยงตนเองได้ในอนาคต ส่วนนางกนกศร สิงหาพาล ได้บอกเล่าถึงปัญหาต่างๆ ที่ชาวบ้านหลายคนซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรต้องเผชิญในปัจจุบัน เช่น ต้นทุนจากราคาข้าว ราคาปุ๋ย รวมทั้งค่าจ้างแรงงานต่างๆ ทำให้เกษตรกรบางคนทำนาแค่พอกินในครัวเรือน ไม่ได้ทำนาเพื่อการค้า เพราะไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้ ดังนั้น ชาวบ้านหลายคนก็หวังพึ่งพาโครงการเหมืองแร่โปแตซ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงๆ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน โดยเฉพาะเกษตรกรก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

ซึ่งจากการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านห้วยสามพาดในครั้งนี้ ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานีเกิดขึ้นโดยเร็ว ซึ่งจากข้อมูลข่าวสารในปัจจุบันที่แสดงให้เห็นว่ามีการเลิกจ้างแรงงานจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวล และคาดการณ์กันว่าจะมีแรงงานชาวอุดรหรือจังหวัดใกล้เคียงที่ถูกเลิกจ้างและต้องเร่งหางานทำ ดังนั้น ถ้าเหมืองเกิดขึ้น ก็จะสามารถรองรับปัญหาการว่างงานของคนกลุ่มนี้ได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์โครงการฯ ก็ได้แสดงความห่วงใยในประเด็นดังกล่าว และแสดงความเชื่อมั่นว่า โครงการจะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพราะโครงการนี้มีความสำคัญต่อภาคการเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนไทย และยังสามารถสร้างรายได้แก่ประเทศได้อย่างมหาศาลอีกด้วย