อุดรโปแตซลงพื้นที่บ้านโนนสา แจ้งความคืบหน้าโครงการฯ

วันที่ 13 ธันวาคม 2562 เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่พบปะพูดคุยชาวบ้านในพื้นที่ประทานบัตรโครงการฯ แจ้งความคืบหน้าการดำเนินการขออนุญาตประทานบัตรและรับฟังความคิดเห็นชาวบ้าน เตรียมนำมาปรับใช้ในการดำเนินโครงการฯ หลังได้รับใบอนุญาต ณ บ้านโนนสา หมู่ 12 ตำบลนาม่วง อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี  

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์โครงการฯ ได้แจ้งชาวบ้านที่เข้าร่วมรับฟังข้อมูลเรื่องความคืบหน้าการดำเนินการในขั้นตอนการขออนุญาตประทานบัตร ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ว่า โครงการฯ ได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ของกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมาก็ได้มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ ทำให้โครงการฯ ต้องปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาบางส่วนให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม การดำเนินโครงการฯ ก็ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชุมชนรอบพื้นที่เป็นสำคัญ รวมทั้งมีความยินดีที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงคาดว่าโครงการจะได้รับการอนุญาตประทานบัตรในเร็ววัน

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์โครงการฯ ยังได้แจ้งชาวบ้านเกี่ยวกับนโยบายการจ้างงานคนในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านหลายคนให้ความสนใจและได้ลงทะเบียนสมัครงานไว้เรียบร้อยแล้ว โดยได้กล่าวว่า เมื่อโครงการได้รับอนุญาตประทานบัตร จะมีการจ้างงานทั้งในช่วงเตรียมการก่อสร้างและในช่วงดำเนินการทำเหมือง โดยตำแหน่งงานต่างๆ จะเปิดรับตั้งแต่วุฒิการศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ ไปจนถึงระดับชั้นปริญญาโท ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์โครงการฯ บ้านหนองตะไก้ รวมทั้งทางเฟสบุ้คโครงการฯ

นายศิริ สะอาดพรม ชาวบ้านหมู่ 12 บ้านโนนสา ที่เข้าร่วมพูดคุยในครั้งนี้ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ตนรอการอนุญาตประทานบัตรโครงการฯ มานาน และที่ผ่านมาก็ได้ติดตามข่าวสารการดำเนินโครงการมาโดยตลอด รวมทั้งทางโครงการก็ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ถ้าเหมืองเกิดขึ้นตนก็มั่นใจว่าชุมชนจะได้รับผลประโยชน์หลายด้าน รวมทั้งความเจริญก็จะมาสู่ชุมชนและคนในพื้นที่ก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ด้านนางละมุน บุญพา ชาวบ้านหมู่ 12 บ้านโนนสา ก็ได้แสดงความคิดเห็นในประเด็นนโยบายการจ้างงานคนในพื้นที่ของโครงการฯ ว่า ตนอยากให้โครงการเกิดขึ้นเร็วๆ เนื่องจากลูกหลานของตน ต้องไปทำงานในกรุงเทพ ต่างจังหวัด รวมทั้งในต่างประเทศ รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้อยู่พร้อมหน้ากับครอบครัว ดังนั้น หากโครงการเกิดขึ้น ก็จะส่งผลดีกับคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก