เจ้าหน้าที่อุดรโปแตซ เดินหน้าแนะชุมชนใช้ปุ๋ยถูกวิธี

วันที่ 24 กรกฎาคม 2562 คณะเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่ให้ความรู้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ประทานบัตรโครงการฯ แนะนำการใช้ปุ๋ยอย่างถูกวิธีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เตรียมประยุกต์ใช้ในการดำเนินโครงการฯ เพื่อสอดคล้องกับวิถีชีวิตและความต้องการของชาวบ้านรอบเหมือง

โดยในครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี ได้ลงพื้นที่บ้านป่าก้าว และบ้านหนองแวงเหนือ ตำบลห้วยสามพาด อำเภอประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี ให้ความรู้เรื่องการใช้ปุ๋ยชนิดต่างๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งตามหลักวิชาการ การใช้ปุ๋ยเพื่อให้พืชได้รับสารอาหารและเจริญเติบโตได้ดี จะต้องใช้ทั้งปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และปุ๋ยชีวภาพร่วมกัน เนื่องจากปุ๋ยแต่ละชนิดมีทั้งข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกัน เช่น ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์คือ ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำ และอากาศถ่ายเทได้ดี แต่มีข้อด้อยคือ มีธาตุอาหารหลักน้อยกว่าปุ๋ยเคมีหลายเท่า โดยจะต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ปริมาณมากและเสียค่าใช้จ่ายสูงเพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารหลักอย่างเพียงพอ ขณะที่ปุ๋ยเคมีแม้ว่าจะมีธาตุอาหารหลักสูงและสามารถเพิ่มธาตุอาหารในช่วงเวลาที่เหมาะสมได้ แต่ก็มีข้อเสียคือปุ๋ยเคมีบางชนิดทำให้ความเป็นกรดด่างของดินเปลี่ยนไป ส่วนปุ๋ยชีวภาพมีข้อดีคือมีค่าใช้จ่ายน้อยเพราะใช้ปริมาณน้อยและไม่ต้องใส่ปุ๋ยบ่อย แต่มีข้อด้อยคือ มีวิธีการใช้และเก็บรักษายุ่งยาก เป็นต้น

การลงพื้นที่ของคณะเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ โครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานีในครั้งนี้ นอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการใช้ปุ๋ยแล้ว ยังเป็นโอกาสดี ที่พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ประทานบัตรโครงการฯ จะได้สอบความข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าการดำเนินโครงการฯ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต รวมทั้งตอบสนองความต้องการของคนในชุมชน

นายอุดร สุวรรณศรี ชาวบ้านหนองแวงเหนือ ได้กล่าวกับคณะเจ้าหน้าที่โครงการฯ ว่า ตนติดตามข่าวสารของโครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานีมานานหลายปี ซึ่งก็เป็นที่น่าเสียดายว่าการพิจารณาอนุญาตประทานบัตรมีความล่าช้า เพราะหากโครงการฯ เกิดขึ้น ก็คงจะมีส่วนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนได้มาก โดยถ้าโครงการฯ เกิดขึ้น ผู้ได้รับประโยชน์ก็คือชาวบ้าน กองทุนต่างๆ ที่โครงการฯ สนับสนุนแก่ชุมชน จะช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ตนจึงอยากให้โครงการฯ เกิดขึ้นโดยเร็ว

ด้านนายสิรสิทธิ์ พื้นพันธ์ ชาวบ้านป่าก้าว ได้พูดคุยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกังวลต่างๆ ในการดำเนินโครงการฯ โดยได้กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกกังวลว่าการทำเหมืองใต้ดินจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เนื่องจากมั่นใจในมาตรการป้องกันผลกระทบ และตนก็เคยเห็นเหมืองแร่ในต่างประเทศ ซึ่งมีระบบการบริหารจัดการที่ดี ไม่กระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม สามารถสร้างประโยชน์แก่ชุมชนโดยรวม และตนก็สนับสนุนให้ชุมชนมีอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เพื่อช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และช่วยพัฒนาชุมชนโดยรอบไปพร้อมกัน