อุดรโปแตซจัดประชุมบ้านหนองตะไก้ รับฟังความคิดเห็นชาวบ้านต่อเนื่อง

            ศูนย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโครงการเหมืองแร่โพแทชจังหวัดอุดรธานี โดยเจ้าหน้าที่แผนกชุมชนสัมพันธ์ตำบลหนองไผ่ เข้าร่วมประชุมชี้แจงข้อมูลข่าวสารและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนบ้านหนองตะไก้ หมู่ 12 ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี วันที่ 2 มิถุนายน 2560

            นายชัยทัศน์ บุตรกระธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการว่า ปัจจุบันขั้นตอนทางราชการได้ผ่านจากจังหวัดอุดรธานีเข้าสู่กระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อพิจารณาออกใบอนุญาตประทานบัตร โดยในระหว่างที่ทุกฝ่ายกำลังรอข่าวดีนั้น ทางโครงการฯ ก็ได้ดำเนินการมาตรการต่างๆ เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบไม่ให้เกิดขึ้นกับชุมชนรอบพื้นที่โครงการฯ เช่น การติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมก่อนการดำเนินโครงการฯ ซึ่งได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างด้านสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับนำมาเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลงภายหลังเหมืองเกิด

            "ในแต่ละปี ทางโครงการก็จะลงพื้นที่สำรวจข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของประชาชนในพื้นที่รอบโครงการ ทั้ง 40 หมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองไผ่ ตำบลหนองขอนกว้าง ตำบลโนนสูง ตำบลห้วยสามพาด และตำบลนาม่วง ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานกับหน่วยงานด้านสุขภาพ เพื่อใช้ฐานข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่สำหรับเปรียบเทียบความเปลี่ยนแปลง โดยเมื่อเหมืองเปิดแล้ว ก็จะดำเนินการตรวจสุขภาพของประชาชนต่อไป" นายชัยทัศน์กล่าว

            อย่างไรก็ตาม ในระหว่างรอการอนุญาตประทานบัตรจากกระทรวงอุตสาหกรรม โครงการฯ ก็ได้เปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมทำงาน โดยสามารถยื่นเอกสารและลงทะเบียนสมัครงานได้ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโครงการฯฯ วันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.

            ด้านนายประสิทธิ์ นวลศรี ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโครงการฯ ว่าหากชุมชนได้รับผลกระทบภายหลังสิ้นสุดการดำเนินโครงการฯ ทางโครงการฯ จะรับผิดชอบผลกระทบดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลโครงการฯ กล่าวว่า ทางโครงการฯ จะให้ความดูแลชุมชนตลอดการดำเนินโครงการฯ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ โครงการฯ ก็มีกองทุนประกันความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิต งบประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งแม้จะสิ้นสุดการดำเนินโครงการฯ กองทุนดังกล่าวก็ยังคงอยู่จนถึงปีที่ 30 เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีผลกระทบตามมาหลังจากที่ปิดเหมืองไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากชุมชนไม่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการฯ ก็ไม่จำเป็นต้องนำเงินกองทุนฯ นี้มาคืนบริษัทฯ สามารถนำงบประมาณจากกองทุนนี้ไปใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนต่อไป