โปแตช สนองรัฐ รายงานผลตรวจคุณภาพสิ่งแวดล้อม หวังชุมชนร่วมตรวจสอบ

บริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ดำเนินโครงการเหมืองแร่โพแทช จ.อุดรธานี นำโดย นายคทาวุธ แก้วมณีชัย หัวหน้าส่วนรัฐกิจสัมพันธ์ ได้นำส่งหนังสือสรุปผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ประจำเดือนมีนาคม 2559 และ สรุปผลการตรวจติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ประจำปี 2559 แก่หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่คำขอประทานบัตร อาทิเช่น สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 9, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี, มลฑลทหารบกที่ 24, รพสต.ในพื้นที่, และเทศบาลเมืองโนนสูง-น้ำคำ เป็นต้น เพื่อให้ทราบสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม และเพื่อใช้เป็นข้อมูลเปรียบเทียบหลังจากที่เหมืองเปิดดำเนินการ

โดยผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2559 (ก่อนการสร้างเหมือง) ได้ทำการตรวจวัดทั้งสิ้น 8 รายการ ได้แก่ คุณภาพอากาศ ความเร็วลมและทิศทางลม ระดับเสียง ความสั่นสะเทือน คุณภาพน้ำผิวดิน คุณภาพน้ำใต้ดิน คุณภาพดิน นิเวศวิทยาทางน้ำ พบว่า อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด แต่ยังมีบางตัวแปรที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ มีการตรวจพบสารหนูปนเปื้อนในดิน และแหล่งน้ำ ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจาก ธรรมชาติและกิจกรรมทางการเกษตรของคนในชุมชน เช่น การใช้ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช เป็นต้น

ด้านผลการตรวจติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและสุขภาพ ประจำปี 2559 พบว่า โครงสร้างทางเศรษฐกิจของ จ.อุดรธานี ขึ้นอยู่กับการเกษตร โดยมีแนวโน้มการใช้พื้นที่การเกษตรในเชิงอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ข้อมูลด้านสาธารณสุข พบว่าปี 2558 ประชากรป่วยเป็นโรคมะเร็ง เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึง 4.5 เท่า อย่างไรก็ตาม ยังมีการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ เขตสัมปทาน เกี่ยวกับการดำเนินโครงการเหมืองแร่โปแตซพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ มีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของโครงการฯ รวมทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีส่วนราชการและหน่วยงานจากหลายภาคส่วนร่วมกันตรวจสอบ

การรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมและผลการตรวจติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมและสุขภาพนี้ เป็นไปตามมติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้พิจารณากำหนดมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยทางบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมมาแล้วกว่า 10 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 ) และเมื่อได้รับประทานบัตรแล้ว จะมีการดำเนินการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องกระทั่งสิ้นสุดโครงการ